วิ่งอย่างไรไม่ให้บาดเจ็บ
การออกกำลังกายที่ช่วยควบคุมน้ำหนักและรักษารูปร่างขาองเราที่ง่ายที่สุดก็คือ การวิ่ง เพราะการวิ่งไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อะไร เราอาจจะไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้ๆ บ้าน หรือสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านก็ได้ ในบางครั้งการวิ่งก็ทำให้เราบาดเจ็บ แต่หากว่าเรารู้จักวิธีวิ่งอย่างถูกวิธีก็สามารถที่จะลดอาการบาดเจ็บได้เช่นกัน
1.ยืดกล้ามเนื้อเข่าและข้อเท้าก่อนการวิ่งก่อนที่เราจะวิ่งทุกครั้ง ให้เรายืดกล้ามเนื้อขา บริหารเข่า และข้อเท้าโดยเราอาจจะหมุนข้อเท้า หัวเข่า หรืองอเข่าเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว เพื่อลดอาการบาดเจ็บ
2.เลือกรองเท้าที่ดีหากว่าเรารักที่จะวิ่งก็ให้ลงทุนซื้อรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ แม้ว่าราคาจะแพงกว่ารองเท้าผ้าใบธรรมดา แต่มันเหมาะกับการวิ่ง เพราะทนรับแรงกระแทก ทำให้ได้รับบาดเจ็บยากขึ้น โดยเราอาจจะไปบอกพนักงานว่าเราจะซื้อรองเท้าวิ่งเพื่อออกกำลังกายประจำวัน แล้วคนขายก็จะแนะนำรองเท้าที่เหมาะสมมาให้เราเลือกเอง
3.อย่าลืมวอร์มอัพและคูลดาวน์อย่างที่บอกไปข้างต้นว่ามีความสำคัญ และเราจะลืมไม่ได้อย่างเด็ดขาด
4. พื้นที่วิ่งควรเสมอกันพื้นที่ที่เราใช้เป็นลู่วิ่งของเราก็มีความสำคัญ เพราะหากว่าเราเลือกไม่ดีก็อาจจะมีอันตรายต่อเท้า ข้อต่อ หรือกล้ามเนื้อส่วนขาได้เช่นกัน พื้นที่เหมาะกับการวิ่งควรจะเป็นพื้นที่เรียบและมีความยืดหยุ่น อย่างเช่นพื้นยางหรือว่าพื้นดิน ส่วนพื้นคอนกรีตมักจะมีปัญหาเรื่องแรงกระแทก หากว่าเราสวมใส่รองเท้าที่ค่อนข้างจะมียางหนายืดหยุ่นก็จะช่วยบรรเทาปัญหาแรงกระแทกได้เช่นกัน
5.ลงน้ำหนักที่ส้นเท้าหลายคนเวลาวิ่งจะชอบลงน้ำหนักที่ปลายเท้า เพราะเห็นนักวิ่งทีมชาติวิ่งกัน แต่เราอย่าลืมว่าเราวิ่งเพื่อออกกำลังกาย ดังนั้น กล้ามเนื้อของเราจึงยืดหยุ่นน้อยกว่า แข็งแรงน้อยกว่านักกีฬา เวลาวิ่งเราจึงต้องลงส้นเท้า เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ
6.อย่าฝืนตัวเองเกินไปในการออกกำลังกายแรกๆ นั้น เราคงจะไม่สามารถที่จะวิ่งได้นานเท่ากับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ดังนั้น หากรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยก็ให้พักอย่าฝืนตัวเองจนเกินไป เพราะการฝืนตัวเองจะทำให้เรามีอาการบาดเจ็บได้ออกกำลังกายแต่น้อย แล้วค่อยเพิ่มระยะทางจะดีกว่าค่ะ
7.อย่ายกเข่าสูงเกินไปเวลาวิ่งหลายคนชอบที่จะยกเข่าสูง ซึ่งนั่นไม่ใช่ทางที่ดีเลย เราควรจะยกเข่าแต่พอดี เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เรามีปัญหาเรื่องข้อต่อ และกล้ามเนื้อได้
1.ยืดกล้ามเนื้อเข่าและข้อเท้าก่อนการวิ่งก่อนที่เราจะวิ่งทุกครั้ง ให้เรายืดกล้ามเนื้อขา บริหารเข่า และข้อเท้าโดยเราอาจจะหมุนข้อเท้า หัวเข่า หรืองอเข่าเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว เพื่อลดอาการบาดเจ็บ
2.เลือกรองเท้าที่ดีหากว่าเรารักที่จะวิ่งก็ให้ลงทุนซื้อรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ แม้ว่าราคาจะแพงกว่ารองเท้าผ้าใบธรรมดา แต่มันเหมาะกับการวิ่ง เพราะทนรับแรงกระแทก ทำให้ได้รับบาดเจ็บยากขึ้น โดยเราอาจจะไปบอกพนักงานว่าเราจะซื้อรองเท้าวิ่งเพื่อออกกำลังกายประจำวัน แล้วคนขายก็จะแนะนำรองเท้าที่เหมาะสมมาให้เราเลือกเอง
3.อย่าลืมวอร์มอัพและคูลดาวน์อย่างที่บอกไปข้างต้นว่ามีความสำคัญ และเราจะลืมไม่ได้อย่างเด็ดขาด
4. พื้นที่วิ่งควรเสมอกันพื้นที่ที่เราใช้เป็นลู่วิ่งของเราก็มีความสำคัญ เพราะหากว่าเราเลือกไม่ดีก็อาจจะมีอันตรายต่อเท้า ข้อต่อ หรือกล้ามเนื้อส่วนขาได้เช่นกัน พื้นที่เหมาะกับการวิ่งควรจะเป็นพื้นที่เรียบและมีความยืดหยุ่น อย่างเช่นพื้นยางหรือว่าพื้นดิน ส่วนพื้นคอนกรีตมักจะมีปัญหาเรื่องแรงกระแทก หากว่าเราสวมใส่รองเท้าที่ค่อนข้างจะมียางหนายืดหยุ่นก็จะช่วยบรรเทาปัญหาแรงกระแทกได้เช่นกัน
5.ลงน้ำหนักที่ส้นเท้าหลายคนเวลาวิ่งจะชอบลงน้ำหนักที่ปลายเท้า เพราะเห็นนักวิ่งทีมชาติวิ่งกัน แต่เราอย่าลืมว่าเราวิ่งเพื่อออกกำลังกาย ดังนั้น กล้ามเนื้อของเราจึงยืดหยุ่นน้อยกว่า แข็งแรงน้อยกว่านักกีฬา เวลาวิ่งเราจึงต้องลงส้นเท้า เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ
6.อย่าฝืนตัวเองเกินไปในการออกกำลังกายแรกๆ นั้น เราคงจะไม่สามารถที่จะวิ่งได้นานเท่ากับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ดังนั้น หากรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยก็ให้พักอย่าฝืนตัวเองจนเกินไป เพราะการฝืนตัวเองจะทำให้เรามีอาการบาดเจ็บได้ออกกำลังกายแต่น้อย แล้วค่อยเพิ่มระยะทางจะดีกว่าค่ะ
7.อย่ายกเข่าสูงเกินไปเวลาวิ่งหลายคนชอบที่จะยกเข่าสูง ซึ่งนั่นไม่ใช่ทางที่ดีเลย เราควรจะยกเข่าแต่พอดี เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เรามีปัญหาเรื่องข้อต่อ และกล้ามเนื้อได้
Leave a Comment